ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด

“รู้สึกอยากตาย อยากฆ่าทั้งตนเองและลูกให้ตาย ไม่อยากเลี้ยงแล้วลูกคนนี้” คงตกใจไม่น้อยหากได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากของคนเป็นแม่ นี่คือสัญญาณบ่งบอกให้รับรู้แล้วว่าต้องเกิดอะไรขึ้นแน่นอน ซึ่งควรได้รับการช่วยเหลือให้เร็วที่สุดจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ

ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด คือ ภาวะอารมณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี มีความคิดทางลบเกิดขึ้น มีโอกาสเกิดกับแม่หลังคลอดไปจนกระทั่งถึง 1 ปีหลังคลอด โดยแรกๆจะเริ่มจากภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอด หรือที่เรียกว่า postpartum blue ภาวะนี้หากเกิดขึ้นถือว่าปกติ

เพราะสามารถเกิดขึ้นกับแม่หลังคลอดได้ทุกราย จากการที่ต้องปรับตัวมาเป็นแม่ โดยเชื่อว่าเกิดจากอิทธิพลของฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงหลังคลอด อาการเช่น อยู่ๆน้ำตาก็ไหล หงุดหงิด นอนไม่หลับ ไม่สนใจเลี้ยงลูก ซึ่งสามารถหายได้เอง แตกต่างจากภาวะความผิดปกติทางอารมณ์ ที่ต้องได้รับการรักษา อาการแสดง คือ แม่เก็บตัวเงียบ ไม่สุงสิงกับใคร

มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย ควรรีบพาไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการ  และหนึ่งในแนวทางการรักษาควบคู่กับการกินยา คือ ครอบครัวจะมีความสำคัญมากที่สุดที่จะช่วยให้ผ่านวิกฤตไปได้ พ่อควรช่วยแม่ในการเลี้ยงลูก ไม่ทิ้งภาระในการเลี้ยงลูกให้ฝ่ายเดียว  ให้แม่ได้มีโอกาสพักผ่อน หรือหาคนช่วยเลี้ยงในช่วงกลางวัน 

โดยสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนี้ อาทิเช่น มีภาวะแทรกซ้อนหรือความเสี่ยงในขณะตั้งครรภ์ ลูกคลอดก่อนกำหนด หรือลูกมีปัญหาสุขภาพ ปัญหาด้านครอบครัว รายได้ เศรษฐกิจ การเงิน รวมทั้งแม่ที่มีการดื่มแอลกอฮอล์ หรือใช้สารเสพติดก่อนหรือหลังท้อง

บางรายอาจรู้ตัวว่าตนเกิดซึมเศร้าหลังคลอด รีบหาทางแก้ไขได้เร็ว ไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาบานปลาย แต่ในทางตรงกันข้ามบางคนไม่รู้ว่าตนเกิดภาวะนี้ คนรอบข้างก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เบี่ยงประเด็นในการรักษาไปอย่างอื่น เช่น หากใครได้ติดตามข่าวจากโลกโซเซียลหน้าเพจของหมอท่านหนึ่ง มีคนส่งเรื่องว่า แม่ของตนคิดว่าถูกคุณไสย์ พาไปหาหมอผี

อาการควรดีขึ้นกลับแย่ลง เพราะการรักษาที่ไม่ถูกวิธี ซึ่งสามารถทำให้เกิดเป็นโรคจิตหลังคลอดตามมาได้ ดังนั้นหากเราเจอคนใกล้ชิด มีอาการหรือสงสัยว่าจะเป็นซึมเศร้าหลังคลอด อย่าชะล่าใจค่ะ รีบไปหาหมอ เพื่อจะได้แนวทางในการดูแลรักษาอย่างถูกต้องต่อไป

เพราะไม่อย่างงั้นผลเสียที่ร้ายแรงอาจส่งผลกระทบต่อต่อแม่และลูกเอง ดังข่าวเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา ที่แม่ลูกอ่อน ฆ่าลูกแล้วเอาไปต้มทำเป็นอาหาร อย่ารอให้เกิดการสูญเสียแล้วค่อยตื่นตัว แต่ควรป้องกันก่อนที่ปัญหาจะเกิดก่อนดีกว่าค่ะ

 

สนับสนุนโดย  alpha88