ที่มาของชื่อฟ้าทะลายโจร

สำหรับเรื่องราวที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้น  เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรไทยที่ใครหลายคนต่างก็รู้จักกันดี  สมุนไพรไทยวันนั้นมีอยู่มากมายหลากหลายรูปแบบ ซึ่งการรักษาด้วยสมุนไพร ก็ถือได้ว่าเป็นการรักษาแบบแพทย์แผนโบราณ  และในยุคปัจจุบันนี้สมุนไพรไทยและการรักษาแบบแพทย์แผนโบราณ 

ที่มาของชื่อฟ้าทะลายโจร ก็ยังมีความนิยมกันอยู่ซึ่งหากใครไม่อยากใช้การรักษา  แบบแพทย์แผนปัจจุบัน      ก็หันมาใช้แพทย์ทางเลือก  ได้ด้วยการใช้ยาสมุนไพรในการรักษา 

ซึ่งสิ่งที่เรากำลังพูดถึงเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับยาสมุนไพรตัวหนึ่ง  ที่ใครหลายคนต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี  มันก็ คือฟ้าทะลายโจรนั้นเอง

เรื่องราวที่น่าสนใจที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้ เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับยาสมุนไพรที่ใครหลายคนต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือ โควิด- 19 ที่เรารู้จักกันนั้น ซึ่งเจ้าตัวยาสมุนไพรดังกล่าว ก็คงจะหนีไม่พ้นฟ้าทะลายโจร

  แน่นอนว่าสำหรับฟ้าทะลายโจรได้มีการพูดถึงเป็นอย่างมาก และมันก็สามารถต้านโควิดได้  ซึ่งในวันนี้เรื่องราวที่เรากำลังจะพูดถึง  เป็นที่ไปที่มาของชื่อฟ้าทะลายโจรว่ามาได้อย่างไร  ฟ้าทะลายโจรเป็นยาที่มีความหมายในตัวเอง คำว่าฟ้าทะลายโจร หมายถึงสมุนไพรที่ฟ้าประทานมาให้ ปราบโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

ในภาษาจีนกลางยาตัวนี้มีชื่อว่า ชวนซินเลี่ยน แปลว่าดอกบัวอยู่ในหัวใจ วงการแพทย์จีนได้ยก  ฟ้าทะลายโจรขึ้นทำเนียบเป็นยาตำราหลวง  ที่มีสรรพคุณโดดเด่นมาก  ที่สำคัญยาเพียงตัวเดียวก็มีฤทธิ์แรงพอ  ที่จะรักษาโรคได้

ซึ่งมีสรรพคุณที่หาได้ยากในสมุนไพรตัวอื่น  นอกจากนี้ สรรพคุณของฟ้าทะลายโจร ยังมีสรรพคุณตระกูลเดียวกับ หญ้ากันงู น้ำลายพังพอน เขยตายาย เมฆทลาย ฟ้าสะท้าน เป็นต้น  นอกจากที่ไปที่มาของชื่อ   ฟ้าทะลายโจร ชื่อดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว 

สรรพคุณต่างๆของฟ้าทะลายโจร ยังคงมีความน่าสนใจเช่นเดียวกัน  อย่างไรก็ตามถ้าคุณสนใจอยากจะลองศึกษาเรียนรู้  สรรพคุณของฟ้าทะลายโจรเพิ่มเติมหรืออยากที่จะรู้ว่าฟ้าทะลายโจรนั้น  สามารถช่วยบรรเทาหรือว่ารักษาโรคอะไรได้บ้าง 

ก็สามารถที่จะทำความรู้จักและศึกษาได้ง่าย  และแน่นอนในวันนี้นั้นสิ่งที่เราได้กล่าวไป  ก็หวังว่าจะเป็นเกร็ดความรู้ให้กับใครหลายๆคนไม่มากก็น้อย  และถ้าหากคุณอยากจะรู้ว่าฟ้าทะลายโจรนั้น สามารถต้าน covid ว่าป้องกัน covid ได้จริงหรือเปล่า  ข้อมูลเหล่านี้ก็ได้มีการเปิดเผยออกมาแล้ว  ลองไปค้นหาเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องมา   อ่านดู

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก

โรคร้ายที่มากับอาหารรสจัด เช่น รสหวาน รสเค็ม

โรคร้ายที่มากับอาหารรสจัด  อาหารรสหวานจัดและเค็มจัดประเทศไทยคนไทยจำนวนไม่น้อยชอบทานอาหารรสจัด  คำว่ารสจัดจ้านในที่นี้หมายถึงรสชาติหวานจัด รสเค็มจัด รสเผ็ดจัดหรือรสเปรี้ยวจัด

คุณผู้อ่านลองสำรวจคนรอบข้างคุณและตัวคุณดูสิว่าอาหารจานโปรดของคุณมีรสชาติแบบไหนหวานจัดหรือเค็มจัดหรือเป็นรสชาติปกติถ้ารสชาติปกติก็สบายใจเพราะคุณไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงของโรคร้าย แต่ในขณะที่คนชอบอาหารรสจัดประเภทที่เค็มจัดหวานจัดเปรี้ยวจัดบอกได้เลยว่าคนประเภทนี้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และรสชาติของอาหารทำให้เราเจริญอาหารสิ่งเหล่านี้ปฎิเสธไม่ได้การที่เราจะรับประทานอาหารได้มากได้น้อยก็ขึ้นอยู่กับรสชาติของอาหาร

ถ้าเป็นรสชาติที่เราชอบเปรี้ยวจัดหวานจัดเค็มจัดนั่นหมายถึงว่าเราจะรับประทานได้เยอะคนส่วนมากก็จะไม่ได้ระมัดระวังเกี่ยวกับโรคร้ายของอาหารที่มีรสจัดประเภทต่างๆ เพราะว่าคนเราส่วนมากยังยึดติดในรูปรสกลิ่นเสียง สิ่งที่เขาต้องการคือความสุข ณ.เวลาทานอาหารและต้องเป็นรสชาติที่เขาโปรดปรานแน่นอนที่สุดโรคร้ายที่แฝงอยู่กับอาหารย่อมถามหาแน่นอนและจากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับรสชาติของอาหารอันโปรดปรานของคนส่วนมากย่อมจะก่อให้เกิดโรคร้ายตามมา เช่นโทษของรสชาติหวานจัดที่มีต่อร่างกายตั้งแต่โรคเล็กๆน้อยๆไปจนถึงโลกที่น่ากลัว

โดยเฉพาะพวกเด็กๆซึ่งชอบรับประทานอาหารหวานเป็นหลักพวกขนมที่มีรสหวานพวกเขาจะมีอาการเบื่ออาหารส่งผลให้พวกเขาเป็นโรคขาดสารอาหารและร่างกายก็จะมีการเจริญเติบโตที่ไม่ดีสังเกตได้ในเด็กฟันน้ำนมของพวกเขาจะผุง่ายและหลุดไปก่อนฟันแท้จะขึ้นเสียอีก

เพราะพวกเขาเหล่านี้ชอบทานขนมหวานและขนมขบเคี้ยวที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมอยู่สำหรับพวกวัยสูงอายุพวกผู้ใหญ่เขาจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากมายเช่นความดันโลหิตสูงโรคเบาหวานโรคอ้วนโรคฟันผุ โรคไขมันในเลือดสูงและมีอาการปวดท้อง ท้องอืดเนื่องจากการหมักหมมของน้ำตาลในกระเพาะอาหารที่เยอะเกินไป

ทำให้เกิดแบคทีเรียในช่องทางเดินอาหารเช่นลำไส้ผลิตกรดและแก๊สขึ้นมาทำให้เกิดอาการปวดท้องท้องอืดท้องเฟ้อนั้นเกิดจากกินรสหวานเยอะเกินไป  

คราวนี้เรามาดูอาหารรสเค็มจัด ส่วนมากจะมาจากการเติมเกลือน้ำปลาลงไป

เพื่อปลุกรสของอาหารตามที่ผู้รับประทานชอบ เครื่องปรุงรสส่วนมากจะเป็นเกลือแกงซึ่งจะใช้สูตรใส่ผสมมาในซอสปรุงรสอีกครั้งหนึ่งแล้วไม่ว่าจะเป็นน้ำปลาหรือซอสถั่วเหลืองชนิดต่างๆลดเค็มไม่ได้มาจากการปรุงรสอย่างเดียวเท่านั้นเพราะรสเค็มจัดมาจากการหมักดองของอาหารด้วยส่วนมากผู้สูงอายุชอบทานรสเค็มจัดซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อร่างกายเพราะอาหารเค็มเนี่ยจะทำให้มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารอย่างมากและเสี่ยงต่อโรคไตด้วย

เพราะว่าไตทำงานหนักในการกำจัดความเข้มของเกลือออกจากร่างกายเพราะฉะนั้นหากใครก็ตามที่มีคุณญาติพี่น้องปู่ย่าตายายที่ชอบรับประทานอาหารมีรสเค็มจัด ช่วยบอกด้วยว่าให้กลับมารับประทานอาหารรสชาติปกติ 

จะได้อยู่กับเรานานๆการรับประทานหวานจัดเค็มจัดโอกาสเสียงโรคภัยไข้เจ็บสูงมากแล้วโรคร้ายพวกนี้ถ้าเป็นแล้วเป็นโรคเรื้อรังต้องรักษาตลอดชีวิตเช่นโรคเบาหวาน โรคไต โรคความดันโลหิต กลับมาทานอาหารในรสชาติปกติ ท่านจะได้มีความสุขและมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย      เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

3 เทคนิคการกินเจอย่างไรไม่ให้อ้วน

กินเจอย่างไรไม่ให้อ้วน เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลกาลกินเจ คนส่วนใหญ่นั้นมักที่จะให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานอาหารกันเป็นอย่างมาก เพราะเทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่หลายๆคนนั้นอาจจะชื่นชอบบ้างหรือไม่ชื่นชอบบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่รักสุขภาพร่างกายและเคร่งครัดในการเลือกรับประทานอาหาร เทศกาลกินเจดึงเป็นหนึ่งในเทศกาลที่เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ เพราะการเลือกรับประทานอาหารในเทศกาลนี้

จะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้ อีกทั้งยังมีอาหารต่างๆมากมายที่มีประโยชน์ ช่วยทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามในสมัยปัจจุบันนี้อาหารเจส่วนใหญ่ก็มักที่จะมีทั้งแบบมีประโยชน์และไม่มีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป

เพราะอาหารบางประเภทก็อาจทำให้ร่างกายของเราได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่ายเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจทำให้น้ำหนักของเราเพิ่มขึ้นได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่อยากลองทานอาหารเจแต่ก็กลัวว่าจะอ้วนวันนี้เราก็จะมาแนะนำเทคนิคง่ายๆในการเลือกรับประทานอาหารเจอย่างไรไม่ให้อ้วน รับรองได้เลยว่านอกจากจะไม่ทำให้เราอ้วนแล้วยังส่งผลดีต่อร่างกายของเราอีกด้วย จะมีเทคนิคอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

  • หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป

เนื่องจากอาหารแปรรูปส่วนใหญ่นั้น มักที่จะมีสารอาหารไม่เพียงพอต่อร่างกายยิ่งถ้าเราทานเข้าไปเยอะๆ จะยิ่งอาจทำให้ร่างกายของเรานั้นได้รับความเสียหายได้ง่าย แต่ถึงอย่างไรอาหารแปรรูปก็เป็นอาหารที่คนส่วนใหญ่นิยมเนื่องจากเป็นอาหารที่ทานได้ง่าย

อีกทั้งยังเหมาะสำหรับวันที่เร่งรีบอีกด้วย แต่สำหรับใครที่อยากรับประทานอาหารเจไม่ให้อ้วนก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป เพราะอาหารประเภทนี้จะยิ่งทำให้แคลอรี่ในร่างกายของเรานั้นเพิ่มปริมาณมากยิ่งขึ้นจนทำให้เราอ้วนได้นั่นเอง

 

  • เพิ่มการทานผัก อาหารเจส่วนใหญ่มักที่จะมีเมนูผักรวมอยู่ในนั้นด้วย ยิ่งถ้าใครอยากสุขภาพร่างกายที่ดี และกลัวอ้วนแต่ก็อยากรับประทานอาหารเจ การที่เราเพิ่มเมนูผักเข้าไปในอาหารถือเป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เรานั้น ไม่อ้วนได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

 

  • ลดการทานคาร์โบไฮเดรต ถึงแม้ว่าสารอาหารนี้จะเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อร่างกายของเรามากแค่ไหนก็ตาม แต่หากอยู่ในช่วงฤดูกาลกาลกินเจและหากใครที่กลัวอ้วน ก็ควรที่จะลดการทานสารอาหารคาร์โบไฮเดรต เพราะสารอาหารประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้วจะอุดมไปด้วยน้ำตาลและแป้งยิ่งถ้าเราทานเข้าไปนั้นก็จะยิ่งมีส่วนช่วยทำให้น้ำหนักของเราเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังราคาถูก

อันตรายจากอาหารรสจัด

อันตรายจากอาหารรสจัด สมัยปัจจุบันนี้อาหารที่มีรสชาติจัดจ้านหรือ มีรสชาติจัดจัด ถือเป็นหนึ่งในรสชาติอาหารที่คนส่วนใหญ่นั้นชอบทานกันเป็นอย่างมาก

เพราะถึงแม้ว่าในบางครั้งหากเรารับประทานเข้าไปแล้วอาจทำให้เรามีอาการปวดท้องหรือท้องเสียได้ง่าย แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังนิยมรับประทานอาหารรสชาตินี้ ยิ่งมีรสชาติเผ็ดก็ยิ่งถูกใจใครหลายคน แต่รู้หรือไม่ว่าการที่เราเลือกรับประทานอาหารที่มีรสชาติจัดจ้านเกินไปเป็นประจำนั้น

อาจเป็นการทำร้ายสุขภาพโดยที่เราเองก็อาจไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจทำให้ร่างกายของเรานั้น    เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน     เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่าย เพราะเนื่องจากว่าระบบภูมิคุ้มกันนั้นถูกทำลายลงด้วยรสชาติของอาหารที่จัดเกินไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่ชื่นชอบการทานอาหารรสจัดๆเป็นชีวิตจิตใจ  วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าความอันตรายที่เราอาจได้รับจากอาหารรสชาติจัดนั้นจะมีอะไรกันบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆคนนั้นมักที่จะมองข้ามเพราะเรียกได้ว่าอาหารที่เราผ่านไปนั้นเป็นรสชาติโปรด จะมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

1.รสชาติเผ็ด

แน่นอนว่าอาหารที่มีรสชาติแซ่บ เป็นอาหารที่คนส่วนใหญ่นั้นชื่นชอบกันเป็นอย่างมากแต่รู้หรือไม่ว่าอาหารรสชาตินี้นอกจากจะทำให้เราท้องเสียได้ง่ายหรือ มีอาการแสบร้อนกลางอก ยังทำให้ร่างกายของเรานั้นได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ เนื่องจากความแสบร้อนนั้นเข้าไปทำลายกระเพาะอาหาร อีกทั้งยังส่งผลให้ลำไส้ของเรานั้นมีอาการแปรปรวน จนส่งผลทำให้เรามีอาการท้องผูกอยู่บ่อยๆนั่นเอง

2.รสชาติเปรี้ยว

ถึงแม้หลายคนจะมองว่าอาหารที่มีรสชาติเปรี้ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลไม้ หรืออาหารที่ผ่านการหมักดองมาแล้ว จะสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายของเราได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วอาหารรสชาตินี้หากเรารับประทานมากๆก็อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราได้เช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าจะยิ่งเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร จนส่งผลกระทบต่อฟัน อีกทั้งยังทำให้เราได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อน รวมไปถึงมีอาการเสียวฟันและอาจทำให้ฟันผุได้นั่นเอง

3.รสชาติเค็ม

ในสมัยปัจจุบันนี้มีอาหารรสชาติเค็มมากมายหลากหลายประเภทให้เราได้เลือกทาน ซึ่งแน่นอนว่าอาหารแปรรูปส่วนใหญ่นั้นจะมีรสชาติที่ค่อนข้างเข้ม เนื่องจากถูกกักเก็บไว้เป็นเวลานานร่วมอาจใส่สารกันเสียอีกด้วย ซึ่งรู้หรือไม่ว่าอาหารรสชาตินี้ เป็นอาหารรสชาติที่อาจส่งผลกระทบต่อตาย และทำให้เรามีอาการบวมน้ำได้ เนื่องจากรสชาติเค็มนั้นจะทำให้ไตของเราขับเกลือออกไปได้ไม่ทัน จนส่งผลให้ไตของเรานั้นได้รับความเสียหาย รวมไปถึงอาจทำให้ระบบการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดนั้นได้รับความเสียหาย ไปด้วย

3 อาหารที่ทำให้ระบบเผาผลาญพัง

อย่างที่เราทราบกันดีว่า คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้หันมาเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายกันมากขึ้น เพื่อที่จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รวมไปถึงช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย

อาหารที่ทำให้ระบบเผาผลาญพัง ซึ่งหรือไม่ว่า การที่ร่างกายของเรามีระบบเผาผลาญที่ดี ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การลดน้ำหนักของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยปกติแล้ว อาหารในสมัยนี้ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของเราให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวมไปถึงอาหารที่มีส่วนช่วยในการทำให้ระบบเผาผลาญของเราพังได้อีกด้วย ซึ่งอาหารในแต่ละประเภทนั้นก็จะมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราก็สามารถเลือกทานได้ตามความเหมาะสมของร่างกาย

อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่กำลังอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก หรือคิดที่อยากจะลดน้ำหนัก และอยากมีระบบการเผาผลาญในร่างกายที่ดีมากยิ่งขึ้น ไม่อยากทำ ระบบเผาผลาญพัง วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า อาหารที่หากทานเข้าไปแล้วนั้นจะยิ่งทำให้ระบบเผาผลาญของเราพังได้ง่าย

เพราะถึงแม้อาหารจะมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากแค่ไหนก็ตาม แต่หากมองเลือกทานไม่เหมาะสมก็อาจส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกายได้ จะมีอาหารประเภทไหนบ้างนั้นไปดูกันเลย

1.อาหารที่อุดมไปด้วยน้ำตาล

ถึงแม้ว่าอาหารที่มีรสชาติหวานหรืออุดมไปด้วยน้ำตาลสูง จะเป็นอาหารรสชาติที่หลายๆคนนั้นชื่นชอบ แต่รู้หรือไม่ว่าหากเรารับประทานเข้าไปมากๆนั้น นอกจากจะส่งผลกระทบต่อร่างกายยังอาจ มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการอักเสบได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการชะลอการเผาผลาญในร่างกายของเราได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มน้ำตาลในเลือดช่วยกระตุ้นความอยากอาหารของเราได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้น ยิ่งรับประทานเป็นประจำขอบอกเลยว่าจะยิ่งทำให้ระบบเผาผลาญของเรานั้นพังง่าย

2.อาหารทอด

เป็นหนึ่งในอาหารที่หลายๆคนนั้นชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นอาหารที่ทานง่าย ทำง่าย อีกทั้งยังมีรสชาติที่ถูกปากหลายๆคนอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารทอดนั้นอุดมไปด้วยน้ำมัน ซึ่งจะยิ่งทำให้ร่างกายของเรามีการสะสมไขมันได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นตัวการสำคัญในการทำให้ระบบเผาผลาญไขมันของเราหยุดนิ่ง และจะทำให้การลดน้ำหนักของเรานั้นไม่มีประสิทธิภาพนั่นเอง

3.อาหารแช่แข็ง

อาหารประเภทนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นอาหารที่สามารถเก็บไว้ทานได้นาน แต่รู้หรือไม่ว่า เป็นอาหารจำพวกที่อาจทำร้าย ระบบการเผาผลาญในร่างกายของเราได้ เพราะเนื่องจากว่าอาหารแช่แข็งส่วนใหญ่จะอุดมไปด้วย น้ำตาล โซเดียม สารกันบูด รวมไปถึงสารอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่อระบบ เผาผลาญของเราอีกด้วย ดังนั้น ยิ่งถ้าใครชอบทานอาหารประเภทนี้ขอบอกเลยว่าจะยิ่งทำให้ระบบเผาผลาญพังได้ง่ายนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย      เครื่องช่วยฟังฟรี

3 ประโยชน์จากการออกกำลังกายที่เป็นมากกว่าการลดน้ำหนัก

การออกกำลังกาย เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้ ช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกายได้ อีกทั้งยังช่วยให้เรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

โดยในสมัยปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่เริ่มหันมาสนใจการออกกำลังกายกันมากขึ้น เพราะเรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่มากคุณประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในส่วนของร่างกาย หรือแม้กระทั่งจิตใจเองก็ตาม

ซึ่งสำหรับใครที่อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นขอบอกเลยว่าการออกกำลังกายเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ดีต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้ และช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย

ประโยชน์จากการออกกำลังกาย ดังนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า แท้ที่จริงแล้วการออกกำลังกายมีประโยชน์มากกว่าการลดน้ำหนัก จะมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย 

การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเสียชีวิตสูงมาก ดังนั้น การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ที่มีโอกาสช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอนั้น    เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก    จะช่วยให้ระบบการทำงานต่าง ๆ ภายในร่างกายของเรามีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการลดความดันโลหิตได้ ช่วยเพิ่มระดับไขมันดีในร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย 

การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างกระดูกได้

เนื่องจากการออกกำลังเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอนั้น จะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ดีให้แก่ร่างกายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ ที่อยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งการออกกำลังกาย ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการเล่นกีฬา หรือการหกล้มอีกด้วย ดังนั้น ยิ่งเราเป็นเป็นประจำก็จะยิ่งทำให้ร่างกายของเรานั้นมีข้อต่อ มีกระดูกที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้

โรคร้ายในสมัยนี้เป็นหนึ่งในโรคที่ทำให้คนส่วนใหญ่นั้นมีโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิตลงสูงมาก ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอมีส่วนช่วยในการลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งบางชนิดได้ ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งลำไส้ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งไต รวมไปถึงมะเร็งปอดอีกด้วย 

3 อาหารที่มีส่วนช่วยในการเร่งผมยาวได้

ปัจจุบันนี้เชื่อว่าสาว ๆ ส่วนใหญ่มีปัญหาเกี่ยวกับการดูแลรักษาผมกัน เพราะสมัยนี้ไม่ว่าเราจะหันไปทางไหนมักที่จะพบเจอกับสาวๆที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมไม่ว่าจะเป็นอาการผมร่วงผมขาดผมช็อต ผมไม่มีน้ำหนัก รวมไปถึงปัญหาอื่นๆอีกด้วย      อาหารที่มีส่วนช่วยในการเร่งผมยาวได้

ซึ่งรู้หรือไม่ว่าปัจจุบันนี้นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผมแล้วยังมีอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผมให้ยาวมากยิ่งขึ้นสุขภาพดี รวมไปถึงเพิ่มความเงางามมีน้ำหนักให้กับผมได้อีกด้วย เพราะการที่เราดูแลเส้นผมให้ดี ถือเป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะเพิ่มความมั่นใจให้แก่การใช้ชีวิตของเราได้อีกทั้งยังช่วยเสริมบุคลิกภาพในการใช้ชีวิต ทำให้เรามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามสำหรับสาวๆคนไหนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการดูแลเส้นผม และ กำลังมองหาวิธีการดูแลเส้นผมหรือบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงหนานุ่มเงางาม และมีน้ำหนัก

วันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผม    gclub      รวมไปถึงการช่วยเร่งผมให้ยาวมากยิ่งขึ้นอีกด้วยจะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

  • เนื้อปลา

รู้หรือไม่ว่าเหนือป่าเป็นหนึ่งในอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปลาแซลมอนและ ปลาทะเลน้ำลึก เพราะเนื่องจากว่าป่าประเภทนี้จะอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้าสามวิตามินบีวิตามินเอ รวมไปถึงสารอาหารอื่นๆอย่างแร่ธาตุและธาตุเหล็ก ซึ่งรู้หรือไม่ว่าสารอาหารดังกล่าวจะมีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผมของเราได้ ซึ่งสามารถเพิ่มความเจริญเติบโตของเส้นผมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการเร่งผมทำให้เราผมยาวได้เร็วมากขึ้นอีกด้วย

  • งาดำ

เนื่องจากงานดำ เป็นธัญพืช คนส่วนใหญ่ชอบนำมาประกอบอาหาร แต่รู้หรือไม่ว่า ธัญพืชชนิดนี้ก็มีประโยชน์ต่อเส้นผมของเราเช่นกัน เพราะในงานดำนั้นจะอุดมไปด้วยวิตามินบีที่สูงมากๆ จึงมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ อีกทั้งยังช่วยบำรุงเส้นผมของเราให้แข็งแรงและไม่ขาดหลุดร่วงง่ายอีกด้วย

  • ไข่ไก่

แน่นอนว่าใครไก่นั้นจะอุดมไปด้วยโปรตีนที่สูงมากๆซึ่งนอกจากจะมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีแล้วนั้นหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าไข่เป็นหนึ่งในอาหารที่สามารถบำรุงเส้นผมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งไข่แดง เพราะจะมีสารอาหารที่สำคัญต่อเส้นผมของเรา ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการทำให้เส้นผมของเราแข็งแรงเงางามและดกดำมากยิ่งขึ้น

เลือกทานอาหารอย่างไรให้ปลอดภัย ห่างไกลจากโรค

การเลือกรับประทานอาหารในสมัยปัจจุบันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ และจำเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากว่าอาหารจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้ แถมยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้ดีขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งการเลือกรับประทานอาหารในสมัยนี้

เลือกทานอาหารอย่างไรให้ปลอดภัย สำหรับแต่ละคนก็ค่อนข้างที่จะมีความแตกต่างกันออกไป เพราะการเลือกกินอาหารของแต่ละคนนั้นบางคนอาจจะกินไม่เหมือนคนอื่น อาทิเช่น ชอบกินอาหารที่แปลกๆ หรืออาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์สักเท่าไหร่ จนลืมไปว่าผลกระทบที่อาจตามมานั้น

จะส่งผลกระทบต่อร่างกายได้มากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บที่อาจเกิดขึ้น หรือแม้แต่อาการป่วยต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นเองก็ตาม อย่างไรก็ตาม การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะไม่เพียงแต่ช่วยให้สุขภาพร่างกายของเราดีได้เท่านั้น

แต่ถ้าหากเราเลือกทานแต่ของดีๆ ก็จะสามารถช่วยป้องกันเราให้ปลอดภัย และห่างไกลจากโรคร้ายใกล้ตัวได้อีกด้วย ดังนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกทานอาหารอย่างไรให้ปลอดภัย และห่างไกลจากโรค ไปดูกันเลย

 

การเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสม ในแต่ละวันเราเชื่อว่าหลายคนเลือกรับประทานอาหารที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะกินมากเกินไป หรือบางคนอาจกินน้อยเกินไป ซึ่งไม่อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ดังนั้น ทางที่ดีควรเลือกทานให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพที่ดีของร่างกาย โดยในกลุ่มพลังงานน้อยควรอยู่ที่ราว ๆ ประมาณ 1,600 ต่อวัน กลุ่มพลังงานกลางควรอยู่ที่ประมาณ 2,000 ต่อวัน และกลุ่มพลังงานมากควรอยู่ที่ประมาณ 2,400 ต่อวัน ซึ่งในแต่ละพลังงานที่ควรเลือกทานนั้นก็ขึ้นอยู่กับช่วงอายุของแต่ละบุคคลด้วย จึงจะช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้ดีขึ้นได้

การเลือกทานอย่างถูกวิธี แน่นอนว่าการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์นั้นนั้นจะเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างมาก การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก็เช่นกัน เพราะการที่เรารับประทานอาหารอย่างช้าๆ เคี้ยวอาหารให้ละเอียดนั้น จะช่วยให้เราย่อยอาหารได้ง่ายมากขึ้น และควรเลือกทานอาหารที่ปรุงสุก เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย และเพื่อช่วยหลีกลเยงการเกิดโรคร้ายได้ง่ายนั่นเอง 

การเลือกทานผักผลไม้เป็นประจำ แน่นอนว่าผักและผลไม้นั้นย่อมมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมากอยู่แล้ว ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพร่างกาย ควรเลือกทานผักผลไม้เป็นประจำ วันละ 1-2 ลูก เพื่อเพิ่มอัตราส่วนที่ดีให้แก่ร่างกาย และเพื่อช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคที่ดีให้แก่ร่างกายได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่ไม่อยากทานผลไม้บ่อยๆ ก็ควรเลือกทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทานของร่างกาย

 

ได้รับการสนับสนุนเนื้อหาโดย        เครื่องช่วยฟังราคาถูก

ไม่อยากข้อเสื่อม วิ่งอย่างไรให้เหมาะสม

ไม่อยากข้อเสื่อม วิ่งอย่างไร การวิ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง แถมยังเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะเป็นกีฬาที่ทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้อุปกร์อะไรที่มันยุ่งยาก เล่นได้ทุกที่ทุดเวลาอีกด้วย

เนื่องจากเป็นกีฬาที่เล่นง่ายไม่ต้องหาอุปกรณ์อะไรที่มันยุ่งยาก คนส่วนใหญ่จุงให้ความสนใจ และนิยมเล่นเพื่อช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง แต่รู้หรือไม่ว่า ในข้อดีของการวิ่งนั้น ก็มีข้อเสียอยู่บ้างเช่นกัน เพราะการที่เราวิ่งมาก ๆ นอกจากจะส่งผลเสียต่อร่างกายของเราแล้วนั้น

ยังอาจส่งผลกระทบไปยังข้อเข่า หรือข้อต่าง ๆ ตามร่างกายของเราได้อีกด้วย เพราะคนส่วนใหญ่ที่ออกไปวิ่งมักที่จะเลือกการวิ่งที่ไม่เหมาะสม อาทิเช่น รองเท้าวิ่งไม่เหมาะสม สถานที่การวิ่งไม่เหมาะสม หรือแม้แต่สิ่งอำนวยความสะดวกก็อาจไม่เหมาะสมเช่นกัน ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่าถ้าหากเราวิ่งก็จะยิ่งส่งผลกระทบตามร่างกายนั่นเอง อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่อยากวิ่งเพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย

วันนี้เราก็จะมาบอกถึงการวิ่งอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ หากไม่อยากข้อเสื่อจะวิ่งอย่างไรให้เหมาะสม เผื่อจะได้ไม่เสียใจทีหลัง วันนี้เรามีคำตอบค่ะ จะมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

 

การเลือกรองเท้าวิ่งให้เหมาะสม การเลือกรองเท้าเพื่อมาใช้ในการวิ่ง เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด หรือไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ออกกำลังกาย เล่นกีฬา ก็ควรที่จะเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำ เพื่อความสะดวก และคล่องตัว ดังนั้น การวิ่งก็เช่นกัน หากเราเลือกรองเท้าอย่างเหมาะสมนอกจากจะทำให้การวิ่งนั้นมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บต่าง ๆ ได้ แถมยังช่วยลดการเกิดข้อเสื่อมได้ง่ายอีกด้วย

การเลือกสถานที่วิ่งให้เหมาะสม สถานที่ก็เป็นอีกหนึ่งใจความสำคัญของการวิ่ง เพราะจะได้ช่วยส่งเสริมการวิ่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยิ่งถ้าใครที่กลัวว่าวิ่งไปแล้วจะยิ่งทำให้ข้อเสื่อมง่าย ก็ควรเลือกสถานที่การวิ่งที่มีพื้นราบ ไม่เอียงเกินไป หรือมีบริเวณที่หักเลี้ยวเกินไป หรือสถานที่การวิ่งที่อาจมีประสิทธิภาพต่อร่างกายมากที่สุดก็คงจะเป็นพื้นยางทคี่มีความนุ่มนั่นเอง เพราะการที่เราวิ่งบนพื้นยางช่วยให้ร่างกายของเราได้รับแรงแระแทกที่น้อยกว่าการวิ่งบนพื้นคอมกรีต

หลีกเลี่ยงการวิ่งลงเนิน ยิ่งถ้าใครที่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อม หรือมีปัญหาเกี่ยวกับข้อบ่อย ๆ ขอบอกเลยว่าให้เลือกวิ่งบนที่ราบจะดีกว่า เพราะถ้าเราวิ่งลงเนินอาจส่งกระทบต่อข้อของเราได้ง่าย หรืออาจทำให้คุณเกิดการเสียหลักจนส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ดังนั้น พยายามทำลำตัวให้ตรง เพื่อเป็นแรงโน้มถ่วงไม่ให้ร่างกายสียหลักได้ง่าย

 

ได้รับการสนับสนุนเนื้อหาโดย        เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดื่มน้ำ

โดยปกติแล้ว ร่างกายของคนเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับปริมาณน้ำที่เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือบางคนอาจจะมองว่ายิ่งเราดื่มน้ำเยอะแค่ไหน ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อร่างกายของเรา ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่เราดื่มน้ำเยอะ ๆ แน่นอนว่าจะยิ่งทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรง

เพราะน้ำถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกาย ยิ่งดื่มเยอะก็ยิ่งส่งผลดีต่อร่างกาย อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการขับสารพิษ หรือของเสียตกค้างที่อยู่ภายในร่างกายให้ออกมาได้อีกด้วย แต่ทว่า ถึงแม้ว่าน้ำจะมความสำคัญต่อร่างกายของเรามากขนาดไหน แต่คนส่วนใหญ่ในสมัยนี้ยังคงมีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการดื่มน้ำกันอยู่บ่อย ๆ บางคนอาจจะมองว่ายิ่งดื่มน้ำเยอะก็ยิ่งทำให้ผิวของเราอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง และขาวกระจ่างใสได้

หรือบางคนอาจจะมองว่าน้ำถือเป็นตัวช่วยในการบำรุงผมของเราได้เช่นกัน แต่รู้หรือไม่ว่าความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการดื่มน้ำทำให้หลาย ๆ คนหันมาดื่มน้ำกันมากขึ้น เพื่อที่จะได้มีสุขภาพร่างกายที่ดี

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดื่มน้ำ ฉะนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดื่มน้ำที่หลาย ๆ คนให้ความสำคัญนั้นจะมีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย 

การดื่มน้ำช่วยรักษาสิวได้ หลายคนเชื่อว่ายิ่งเราดื่มน้ำมาก ๆ จะยิ่งช่วยให้สิวบนใบหน้าหายได้เร็วมากยิ่งขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า การดื่มน้ำไม่ได้มีส่วนช่วยในการรักษาสิวได้โดยตรง แต่เป็นการรักษาสิวทางอ้อมต่างหาก เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของเราเกิดอาการขาดน้ำ จะยิ่งทำให้ของเสีย ไต หรือลำไส้ของเราทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ จนส่งผลให้ของเสียที่การตกค้างภายในร่างกายถูกขับออกมาทางรูขุมขน และเกิดการอุดตัน จนทำให้เราเป็นสิวได้ง่ายนั่นเอง 

การดื่มน้ำช่วยให้ผิวชุ่มชื้น แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่อาจจะมองว่ายิ่งเราดื่มน้ำเยอะ ๆ ก็จะยิ่งทำให้ผิวของเราแลดูชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น เพราะน้ำสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวพรรณของเราได้ ยิ่งถ้าใครที่มีผิวแห้งกร้า ผิวขาดน้ำ ก็มักที่จะดื่มน้ำเยอะ ๆ หรือฝืนดื่มน้ำกันอยู่บ่อย ๆ แต่ในความเป็นจริงวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ผิด เพราะการที่เราฝืนดื่มน้ำเยอะ ๆ อาจเป็นการทำร้ายร่างกายทางอ้อมได้ ดังนั้น ทางที่ดี ควรดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม หากอยากช่วยให้ผิวแลดูชุ่มชื้น 

การดื่มน้ำช่วยลดริ้วรอย รู้หรือไม่ว่าหากผิวของเราแห้ง หรือขากความชุ่มชื้นจะยิ่งทำให้เราสามารถเห็นริ้วรอยได้อย่างชัดเจน ฉะนั้น เราจะเห็นได้ว่าคนมักที่จะเน้นการดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อที่จะได้ช่วยได้ลดริ้วรอยบนใบหน้า แต่รู้หรือไม่ว่าวะรี้ไม่ใช่วิธีที่จะแก้ปัญหานี้ได้ เพราะการที่ผิวของเราจะชุ่มชื้นได้ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการดื่มน้ำเสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับไขมันบนชั้นผิวนั่นเอง ดังนั้น หากใครที่มองว่าวิธีนี้สามารถรักษาริ้วรอยบนใบหน้าได้ วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ผิด 

 

ได้รับการสนับสนุนจาก        เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ